Banner 728x90

แชร์ประสบการณ์ที่เกิดแบบไม่คาดคิด จากการเสริมจมูก


วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ที่เกิดกับตัวเราแบบไม่คาดคิด อาจจะเป็นประโยชน์หรือเป็นข้อระมัดระวังตัวให้กับคนที่อ่านไม่มากก็น้อยค่ะ เรามาเริ่มเรื่องกันเรยดีกว่าค่ะ ในตอนที่เราอายุ 20 ปี เราได้ตัดสินใจเสริมจมูก ด้วยเหตุเพราะหน้าที่การงานเลยต้องเสริมค่ะ เราลืมบอกตอนนั้นเราเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ตั้งแต่เราเสริมมาก็ช่วยให้เรามีงานมีรายได้ พอที่จะจ่ายค่าเทอม ค่าหอ ค่าใช้จ่ายต่างๆได้ค่ะ ล่วงเวลาไปได้ 3 ปีกว่า เราก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดกับเรา เราได้เกิดอุบัติเหตุ หรือจะเรียกว่าเป็นเวรเป็นกรรมอะไรก็ไม่รู้ ใครจะมาคิดว่าวิ่งชนกระจกแล้วชีวิตจะเปลี่ยน ในขณะที่เราเลิกงาน กำลังจะกลับบ้านในตอนนั้นเรารีบมากค่ะ เพราะเพื่อนก็รออยู่ค่ะ แถมตอนนั้นเป็นช่วงกลางคืนค่ะ มืดมาก คือเราวิ่งแบบเต็มแรงค่ะ เพื่อจะวิ่งไปตรอกบัตรเวลาเลิกงาน สักพักก็ได้ยินเสียงดัง ปรั่ง โพล้ง เพล้ง ;’;.,/. คือในใจมันเกิดอะไรขึ้นวะ พอมีคนวิ่งมาเปิดไฟ เราก้อเห็นประตูกระจกแตกหมดเรยค่ะ ในใจคิด” นี่หัวตูแข็งขนาดชนกระจกแตกเรยเหรอฟะเนี๊ย ดีนะที่เราไม่เป็นไร คิดไปคิดมากระจกแตก ตูจะเอาตังค์ที่ไหนไปจ่ายเค้าเนี๊ย” อยู่ดีๆก้อมีเลือดหยดใส่เสื้อ เลือด เลือดมาจากไหนฟะ เอามือไปจับหัวเพราะรู้สึกชาๆโนๆ หัวตูก็ไม่มีเลือด เริ่มรุ้สึกได้ว่าเลือดไหลทางจมูก เอ๊ะหรือว่าเลือดกำเดาไหล ก้อแค่เลือดกำเดาไหลเงยหน้าก็หาย ลองเงยดู เอ๊ะ ทำไมเลือดมันไหลย้อนเข้าตาได้ฟะ เริ่มเต็มหน้าไปหมดละ คือตอนนั้นใจเริ่มสั่นละ ทำไม ทำไมเพื่อนบอกให้รีบพามันไปโรงบาล ทำไมเพื่อนไม่บอก ไม่พูด เราเป็นไร ทันใดนั้นเราก็ตัดสินใจวิ่งไปที่ห้องน้ำ บอกตรงๆ ตอนนั้นเหงตัวเองในกระจก ใจมันไปหมดละ อยากจะเป็นลมก็เป็นไม่ได้ ได้แต่ถามเพื่อนว่า “ทำไมหน้าเราเป็นแบบนี้ เราจะหายมั้ย? ตอนนั้นเราก้อทำอะไรไม่ถูก เพื่อนคนนึงได้สติเค้ารีบพาเราไปโรงบาลที่ใกล้เคียง พอถึงโรงบาลพยาบาลก้อรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเรยค่ะ ห้ามเลือด คือตอนนั้นเราต้องทำการผ่าตัด แต่คือค่าใช้จ่ายในการทำเป็นแสน คือตอนนั้นคิดในใจตูจะทำไงดี ตูอยากตาย เพื่อนเราเค้าคิดขึ้นได้เค้าถามเรา ว่าเรามีประกันอะไรมั้ย เราได้ทำประกันไว้กับมหาลัยที่มีชื่อเหมือนโรงบาล เราเรยรีบเปลี่ยนไปโรงบาลแห่งนั้นทันที เรารีบขึ้นแท็กซี่


บอกไปโรงบาลนั้น พอมาถึงโรงบาล เราก็ลงมากับเพื่อน อ้าวเห้ย// แท็กซี่มันพามาผิดโรงบาล โรงบาลที่จะไปมันอยู่ไม่ไกลจากนี่ ไหนๆก็มาแล้วก็ต้องรีบรักษาก่อน ไม่งั้นเสียเลือดมากอาจเป็นลมได้ เพื่อนเราก้อไปติดต่อเรื่องเอกสาร ให้หมดเรยคร้า โชคดีมากโรงบาลนี้แนะนำให้ใช้สิทธิ์บัตรทองได้ เพราะเป็นอุบัติเหตุ วันนั้นเราไปถึงโรงบาลตอนตี5 ค่ะ พยาบาลก็บอกต้องรอหมอศัลกรรมตกแต่งมาค่ะ เราก้อรอถึง 8 โมงกว่าจะได้ผ่าตัด พอหมอมา นางพยาบาลบอกกระจกบาดค่ะ หมอก็บอกว่าไม่หน้ามีปัญหามาก ไหนหมอขอดูแผลหน่อยซิ เปิดออกมาเท่านั้นแหละ หมอบอกขนาดนี้เรยเหรอ เนื้อหายไปเกือบครึ่งจมูก เห็นซิลิโคนขาวๆเรย เราก็บอกไปว่า เราเอาเนื้อที่หลุดมาด้วยนะคะ เราก็ยื่นให้หมอ นี่ค่ะ หมอบอก ‘ดีนะที่เรายังมีสติหยิบมาด้วย ” เราก็ตอบไป “นู๋เปล่าหยิบ มีคนหยิบมาให้นู๋ นู๋ก็ตกใจเหมือนกันค่ะ” นางพยาบาลก็เอาไปแช่เย็นไว้ สุดท้ายเราก็ได้เข้าห้องผ่าตัดค่ะ เจ็บที่สุด ก็ตอนฉีดยาชาค่ะ ฉีดตรงไหนไม่ถึงตรงหน้านี่เจ็บสุดๆค่ะ หมอถามชารึยัง เราตอบยังค่ะ เราก้อนึกว่ารอให้ชา ที่ไหนได้ฉีดอัดเข้าไปอีก โอ๊ยเจ็บ หมอบอกเราจะเริ่มกันแล้วนะ เจ็บบอกนะ หมอก็เริ่มจากเอาซิลิโคนออก แล้วก็ค่อยๆเย็บให้เนื้อติดกัน แต่ไม่สามารถเย็บติดได้หมดค่ะ เนื้อหลุดไปเยอะ เนื้อที่เอามาก็ใช่ไม่ได้ หมอบอกอาจจะติดเชื้อได้ ถ้าไม่สะอาด หมอก็เซลฟี่หน้าเราตอนผ่าตัดให้เราดู ว่ามันหายไปเท่านี้ จะให้หมอ ตัดเนื้อช่วงขาอ่อน มาทำกราฟมั้ย เราก้อตอบเรยค่ะ เอาค่ะๆ เอาให้นู๋หาย หมอก็ไม่รีรอค่ะ จัดเตรียมเครื่องมือเต็มผ่าตัดเอาเนื้อที่ขา หมอบอกเจ็บหน่อยน๊าา ไม่หน่อยเรยค่ะความรู้สึกตอนนั้น นี่ตูโดนยาชาอีกแล้วเหรอฟะ คราวนี้ หน้าชา ขาชา ไปหมดเรยค่ะ และแล้วหมอก็เย็บแผลที่ขาเสร็จ เย่ๆ เสร็จ รู้สึกดีใจมาก หมอบอกยังไม่เสร็จ ต้องเอาเนื้อมาเย็บที่จมูกต่อ ฮือๆ ตูอยากจะร้องไห้ แต่มันร้องไม่ได้ ถ้าร้องน้ำตาจะไหลมาโดนแผล ก็แสบอีก กลั้นไว้ๆ อีกอึดใจเดียว ในที่สุดก็ผ่าตัดเสร็จ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงได้ค่ะ เพื่อนเราก็คอยให้กำลังใจเราหน้าห้องผ่าตัด เราหล่ะซึ้งในน้ำใจของเพื่อนคน นี้มากๆเรย จุดต่อไปเราเริ่มคิดละว่าต่อไปจะทำยังไง ใช้ชีวิตยังไง เราก็ค่อยๆตั้งสติ ปัญหามันต้องมีทางออกสิ ในขณะที่เรายังต้องรักษาตัวอยู่ ออกไปไหนก็ไม่ค่อยได้ เราเรยคิดว่าจะหาของมาขายออนไลน์ เพราะเรามีค่าใช้จ่ายมากมายที่ต้องรับผิดชอบ แล้วก็ถึงวันที่หมอนัดตัดไหม วันนี้เป็นวันที่เราตื่นเต้นมากเรยค่ะ ขอบอกตัดไหมเจ็บมากเรยค่ะ หมอดึงไม่ยั้ง ตัดทั้งตรงจมูกและขา เจ็บ2ที่ อีกแล้วเรา สักพักก็ได้ยินเสียงนางพยาบาลเรียก เราก็หันหน้าไป เห้ย!!!กระจก เราเอามือจับหน้าตัวเองแทบจะร้องไห้เรย คือหมอเก่งมาก หมอทำได้ไง ได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณๆหมอ แค่นี้ก็พอใจแล้ว เหลือแค่ร่องรอยของแผลเป็นที่ต้องรักษา หมอก็ให้ยาเรามาทา และก้อแปะซิลิโคนเจลชีท ไม่ให้แผลมันนูนและค่อยๆจางลง ตอนนี้ก็ผ่านมาได้ 1 ปีละค่ะ หลังจากเกิดเหตุการณ์ นั้น เดี๋ยวจะทยอยลงรูปให้ดูนะคะ รูปอาจจะดูน่ากลัวนะคะ ใจไม่ถึงอย่าดูนะคะ

นี่คือรูปก่อนที่จะโดนกระจก ณ วันเกิดเหตุการณ์ค่ะ(แอบถ่ายก่อนไป อิอิ)



นี่คือรูปตอนโดนกระจกบาดแล้วค่ะ เพื่อนถ่ายมาจากมือถือพยาบาลอีกทีค่ะ



นี่คือรูปหลังผ่าตัดเสร็จค่ะ รูปล่างคือซิลิโคนที่ถอดออกค่ะ



เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์ คุณหมอนัดไปตัดไหมค่ะ รูปนี้แผลเริ่มแห้งแล้วค่ะ(แผลติดกับผ้าก็อต เจ็บมากเรยค่ะ เวลาหมอดึง) อยู่แบบนี้มาเป็นอาทิตย์ห้ามโดนน้ำ ห้ามกระแทก ขนาดนอนยังต้องมีสติตลอดค่ะ ห้ามนอนหันข้าง พลาดไปนี่จบเรยค่ะ



นี่คือ รูปหลังจากตัดไหมเสร็จค่ะ คุณหมอยังต้องให้แปะผ้าก็อตอยู่ แผลยังสดและนิ่มอยู่ค่ะ ถ้ามีอะไรมากระแทก เนื้ออาจหลุดได้อีก เวลาไปเรียนก็ไปทั้งหน้าแบบนี้ค่ะ เดินก็ระวังสุดๆ ขาดเรียนไป2อาทิตย์ ตามงานเยอะมากเรยค่ะ เครียดก็เครียด สุดท้ายเทอมนั้นก็ผ่านไปด้วยดีค่ะ ผ่านทุกตัว ช่วงนั้นไม่มีใครเข้าใจเราหรอกค่ะ เค้านึกว่าแผลเราแค่รอยกรีดแล้วเย็บ



นี่คือรูป หลังจาก 1 อาทิตย์ ก็ไปให้หมอล้างแผลหลังตัดไหมค่ะ คุณหมอก็เริ่มแปะผ้าก็อตให้เล็กลงค่ะ แผลเริ่มสมานกันดีขึ้น ในช่วงที่รักษาตัวก็กินแต่ไข่ขาวทุกวันเรยค่ะ ช่วยสร้างเนื้อในจมูกให้เต็มค่ะ และในช่วงนั้นน้องหมาก็กินแต่ไข่แดงทุกวันเหมือนกันค่ะ มันคงจะเบื่อ 55 5



นี่คือรูป ที่เอาแผลก็อตแปะแผลออกละค่ะ เราก็ใช้ยาทาแผลเป็นทุกวันค่ะ ยาที่ใช้ทาแรกๆ ก็เป็น Hiruscar ค่ะ คุณหมอให้มาทา และก็แปะด้วย Actewond silicone gel แปะกดทับแผลไม่ให้โดนแดดและไม่ให้นูนมากกว่านี้ค่ะ แต่ก็ใช้เวลานานค่ะกว่า แผลจะจางและเนียนเหมือนเป็นเนื้อเดียวกัน




นี่คือรูปที่ ไม่ได้แปะซิลิโคน แร้วค่ะ เพราะแผลเริ่มเนียนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วค่ะ อาจจะมีช่วงปีกจมูกที่แผลยังนูนอยู่นิดหน่อยค่ะ ช่วงนี้เราก็เปลี่ยนตัวยาทามาเป็น Dermatix ค่ะ เห็นโฆษณาออกใหม่ และเพื่อนก็แนะนำว่าได้ผลดีค่ะ แผลเป็นจางลงเร็ว


นี่คือรูป ปัจจุบันค่ะ หายเป็นปกติละค่ะ แต่ก็ยังมีรอยแผลอยู่อยู่จางๆ ก็ยังทายาอยู่เรื่อยๆค่ ลงครีมรองพื้นหรือกันแดด เวลาออกไปข้างนอก ก็ปกปิดมิดไม่เห็นเรยค่ะ รูปถ่ายจมูกด้านข้างที่กระบาดค่ะ ปัจจุบันก็หันมาขายเสื้อออนไลน์เป็นรายได้หลักแล้วค่ะ มีถ่ายแบบเสื้อผ้าแถวประตูน้ำบ้าง ตอนแรกกะว่าทำชั่วคราวไปก่อน แล้วค่อยออกไปสมัครงาน ไปๆมามันแล้วอยู่ตัวแล้วก็เรยเลือกเดินต่อไปทางนี้ค่ะ





ใครที่สนใจถามเกี่ยวกับคุณหมอ ถามมาที่อินบล็อคส่วนตัวได้นะคะ ยินดีให้คำปรึกษาคร้า คุณหมอมีทั้งคลินิค และทำที่โรงบาลด้วยจร้า เป็นหมอศัลกรรมตกแต่งที่ติดอันดับต้นๆในประเทศไทยก็ว่าได้เลยค่ะ รับศัลกรรมทั่วไปด้วยนะคะ

ที่มา pantip.com

Tag : Hot
0 Comment "แชร์ประสบการณ์ที่เกิดแบบไม่คาดคิด จากการเสริมจมูก"

Back To Top